อย่าหาทำ หากคุณไม่อยากให้คอนเทนต์ของคุณหายนะ

     เขียนคอนเทนต์แล้วไม่มีคนดู  ,เขียนคอนเทนต์แล้วไม่มีคนสนใจ สุดท้ายก็ท้อและเลิกเขียนไป เป็นปัญหาโลกแตกของผู้ที่เริ่มต้นทำคอนเทนต์ใจเย็นๆ ก่อนครับมันมีสาเหตุ สิ่งที่ผมต้องการให้คุณเลิกทำเลย ณ ตอนนี้เลยก็คือ อย่าโทษโน่นโทษนี่ เพราะมันไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมภายนอกเลย ให้คุณวกกลับเข้ามาดูตัวคุณเอง คุณเป็นผู้รับผิดชอบงานเขียนคอนเทนต์นั้น 100% ครับ ให้คุณยอมรับในส่วนนี้ก่อน เพราะไม่เช่นนั้นคุณจะไม่เปิดใจในการยอมรับสิ่งที่ผมจะเสนอให้คุณแก้ไข

 

      และนี่คือเหตุแห่งความหายนะ ที่ทำให้งานเขียนคอนเทนต์ของคุณไม่ประสบความสำเร็จ ลองคิดพิจารณาดูครับว่า คอนเทนต์ของคุณนั้นเข้ากับปัจจัยที่ผมบอกหรือไม่ แล้วรีบปรับปรุงอย่างเร่งด่วน

     1. ใช้เนื้อหาที่เป็นทางการมากจนเกินไป ไม่เป็นธรรมชาติของคุณ

          อย่าลืมน่ะครับว่า การเขียนคอนเทนต์เป็นการเขียนที่ต้องอาศัยธรรมชาติ ต้องมีความเป็นตัวคุณ ควรจะเป็นภาษาพูด อย่าทำอะไรที่เป็นทางการมากมาย ให้ลืมความเป็นทางการไปให้หมด ให้เขียนด้วยความผ่อนคลายสบายๆ คุณไม่ได้เขียนคอนเทนต์ เพื่อออกงานสังคม หรือเพื่อเข้าประชุมในงานคนใหญ่คนโตอะไรที่เป็นทางการ ให้คุณคิดว่าคนที่อ่านคอนเทนต์ หรือดูคอนเทนต์ของคุณนั้นเป็นเพื่อนคุณที่ไม่ต้องมีการปิดกั้น ต้องมีการเปิดใจคุยกันครับ เมื่อคิดได้เช่นนี้จะเกิดความผ่อนคลายมากขึ้น ความเป็นทางการในคอนเทนต์ของคุณจะเบาบางลง 

     2. คอนเทนต์ของคุณเต็มไปด้วยศัพย์เฉพาะมากจนเกินไป

          ศัพท์แสงยากๆ ให้คุณตัดไปให้หมดครับ อย่าให้ยากจนเกินไปในการที่กลุ่มเป้าหมายจะอ่านคอนเทนต์ของคุณ คุณต้องจำไว้เลยว่าการเขียนคอนเทนต์จะต้องทำให้ “ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย และจูงใจให้อ่านบรรทัดต่อไป” ศัพท์ที่เป็นวิชาการ หรือศัพท์อะไรที่เป็นการเฉพาะในแวดวง ของคุณต้องมีการตีความหมายให้เรียบร้อยในการสื่อสาร ยกตัวอย่างเช่น  ” เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของคุณเต็มความจุเครื่อง คุณควรใช้ External Hard disk”  คุณอาจจะเข้าใจคำว่า ” External Hard Disk” ว่าคือ “แหล่งเก็บข้อมูลนอกเครื่องคอมพิวเตอร์” แล้วคุณคิดหรือว่า คนอื่น จะรู้เรื่องทั้งหมดในศัพท์ดังกล่าว ให้คุณคิดคำในคอนเทนต์ที่ง่ายต่อการเข้าใจของคนทั่วไป ” เพื่อป้องกันไม่ให้ความจำของเครื่องคอมเต็ม ควรใช้กล่องความจำสำรองนอกเครื่อง ( External Hard Disk )”  เป็นไงครับแบบนี้ง่ายกว่ากันเยอะ 

     3. เป้าหมายในการสื่อสารคอนเทนต์ไม่ชัดเจน

         ข้อนี้ยิ่งไปกันใหญ่ครับ เขียนคอนเทนต์โดยไม่ได้คิดก่อนเลยว่า “เป้าหมายในการเขียน” คอนเทนต์นี้คืออะไร เมื่อไม่มีเป้าหมายก็ทำให้การสื่อสารเลื่อนลอย กลุ่มเป้าหมายก็ งงๆ ซิครับ ให้เจาะจงไปเลยครับ คุณเขียนคอนเทนต์โดยมีเป้าหมายเพื่ออะไร เช่น เพื่อขาย ,เพื่อให้ความรู้  เพื่อสร้างแบรนด์  เป็นต้น เมื่อคุณมีเป้าหมายในการเขียนคอนเทนต์ ข้อความ  ประโยค หรือแม้กระทั่งรูปภาพที่คุณสื่อสารนั้น ก็จะสื่อไปตามเป้าหมายที่คุณคิดนั้น  โปรดจำไว้ให้มั่น คุณต้องคิดเป้าหมายในการเขียนคอนเทนต์ก่อนที่จะเขียนหรือสื่อสารออกไป ไม่เช่นนั้น หายนะมาเยือนแน่ๆ

      4. ใช้ภาษาในการเขียนคอนเทนต์ที่ไม่ลื่นไหลเอาเสียเลย

           มีหลายสาเหตุครับที่การเขียนคอนเทนต์ไม่ลื่นไหล เช่นคุณอาจจะคิดมาก คิดเยอะเกินไปในการเขียน คาดหวังสูงเกินไปว่า เขียนอย่างนี้จะมีคนอ่านไหม ทำแบบนี้จะมีคนดูไหม เขียนแบบนี้จะขายได้ไหม เขียนอย่างนี้จะได้ประโยชน์ไหม ฯลฯ โอ้ย…. อย่าคิดมากให้เสียเวลาครับ อยากเขียน ก็เขียนไปเลยครับ อย่าคิดเยอะ งานเขียนคอนเทนต์จะสื่อถึงจิตใจและความคิดของคุณน่ะครับ เขียนไปเลย มัวแต่คิด ภาษาจะไม่เป็นธรรมชาติ ขาดๆ เกินๆ ไม่เป็นธรรมชาติ  อีกข้อหนึ่งที่ทำให้การเขียนไม่ลื่นไหล ก็คือ “การเขียนคอนเทนต์โดยไปก็อปปี้คนอื่นมา” ไม่อยากให้ทำเลยครับ บทความคนอื่นก็เป็นของคนอื่น เป็นสไตล์ของคนอื่น ฉะนั้นหากคุณก็อปมาทั้งดุ้น มันก็ไม่ใช่ตัวคุณ คนอ่านคอนเทนต์ดูออกน่ะครับ   ขอให้คุณอ่านบทความ ความรู้จากแหล่งอะไรก็ตามมา ขอให้นำมาเขียนโดยใช้ประโยค และสไตล์ของคุณเองจะดีกว่าครับ

        >>> เป็นอย่างไรบ้างครับ เหตุแห่งความหายนะ ที่ทำให้การเขียนคอนเทนต์ของคุณไม่ประสบความสำเร็จ ให้คุณพิจารณาคอนเทนต์ของคุณว่า ตรงกับข้อใด ข้อหนึ่งใน 4 ข้อนี้ไหม หากตรงขอให้แก้ไขโดยด่วน และนำไปปรับใช้กับทุกๆ คอนเทนต์ที่คุณจะเขียน รับรองครับว่า คอนเทนต์ของคุณจะได้รับความสนใจ และประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ^^

Leave a Comment